ในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้จะมีนักฟุตบอลจำนวน 832 คน จาก 32 ชาติ เข้าร่วมการชิงชัยความเป็นหนึ่งของโลกลูกหนัง
จากจำนวนนักเตะ 832 คนนี้ มีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์อยู่ 10 คนที่เราอยากให้จับตามองเป็นพิเศษสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่น่าจะเป็นแสงสว่างในการแข่งขันฟุตบอลโลกกลางทะเลทราย
ไม่ต้องพูดเยอะ ไปดูกันเลยว่ามีใครบ้าง! 🙂
-
เกาะติดการแข่งขัน ‘บอลโลก 2022’ รายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ที่ thestandard.co/worldcup2022
เนย์มาร์ (บราซิล)
จริงอยู่ที่ ‘ลา เซเลเซา’ ชุดนี้จะมีขุมกำลังแนวรุกที่จัดจ้านอย่างมากด้วยนักเตะอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก, แอนโทนี, ราฟินญา, ริชาร์ลิสัน แต่คนที่ถือเป็น ‘พระเอก’ ตัวจริงคือเจ้าชายลูกหนังของชาวบราซิลอย่างเนย์มาร์อยู่ดี
เนย์มาร์ คือนักฟุตบอลในคำทำนายที่จะพาบราซิลกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหลังสิ้นสุดยุคของ ‘อิล เฟโนเมโน’ โรนัลโด นาซาริโอ แต่คำทำนายนั้นไม่เป็นจริงในปี 2014 ที่เขาโชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างการแข่งขัน และในปี 2018 ที่ฟอร์มการเล่นตกต่ำและมีปัญหาเรื่องทัศนคติการเล่น
ครั้งนี้เนย์มาร์ในวัย 30 ปีกลับมาอยู่ในช่วงที่ฟอร์มการเล่นดีอีกครั้ง นอกจากฝีเท้าจัดจ้าน ยังมีความเป็นผู้นำที่เด่นชัดขึ้นด้วย และการที่เจ้าตัวบอกว่าไม่รู้จะมีโอกาสเล่นฟุตบอลโลกอีกไหม หมายถึงครั้งนี้จะเป็นฟุตบอลโลกที่เขาทุ่มสุดตัวอย่างแน่นอน
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติบราซิล (Brazil national football team)
คาริม เบนเซมา (ฝรั่งเศส)
เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนล่าสุด เบนเซมาห่างหายจากฟุตบอลโลกมานานเพราะเพิ่งกลับมาติดทีมชาติฝรั่งเศสอีกครั้งในศึกยูโร 2020 เมื่อปีที่ผ่านมา แต่เมื่อกลับมาแล้วก็สามารถเป็นที่พึ่งพาของทีมได้ โดยเฉพาะการประสานงานร่วมกับ คีเลียน เอ็มบัปเป นักเตะที่เป็นความหวังสูงสุดของทีม
แต่ในยามที่เอ็มบัปเปดูมีปัญหาเรื่องของทัศนคติในการเล่นกับสโมสร ฝีเท้าและประสบการณ์ที่บ่มเพาะมาถึงขีดสุดของเบนเซมา ทำให้เขาจะเป็นคนที่ ‘เลส์ เบลอส์’ ฝากความหวังได้ เพราะอาจจะไม่มีฟุตบอลโลกครั้งต่อไปสำหรับตัวเขาอีกแล้ว สตาร์ในวัย 34 ปีจะงัดทุกอย่างออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส (France national football team)
แฮร์รี เคน (อังกฤษ)
ทีม ‘สิงโตคำราม’ ทำผลงานได้ดีเกินความคาดหมายใน 2 รายการระดับเมเจอร์ล่าสุดอย่างฟุตบอลโลก 2018 ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และฟุตบอลยูโร 2020 ที่ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และได้ชิงในบ้านด้วย แต่พลาดท่าพ่ายอิตาลีไปแบบเจ็บปวด
คนสำคัญของอังกฤษคือ แฮร์รี เคน ศูนย์หน้ากัปตันทีมที่เป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสจริงๆ คนเดียวในทีมที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ และแม้จะมีคนทัดทานว่าสภาพร่างกายของดาวยิงวัย 30 ปีตอนนี้อาจจะไม่สดมากนักเพราะกรำศึกหนักมาตลอด แต่ฟอร์มในพรีเมียร์ลีกช่วงหลังดูเหมือนกัปตันสิงโตจะกลับมาเข้าฝักยิงคมกริบอีกครั้ง
นี่อาจจะเป็นฟุตบอลโลกที่เคนฉายแสงเต็มๆ
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ (England National Football Team)
เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยียม)
ผู้นำรุ่นปัจจุบันแห่ง Golden Generation ของเบลเยียม ที่แม้เพื่อนๆ จะโรยราลงมามากตามวัย แต่ฟอร์มการเล่นของ เควิน เดอ บรอยน์ ไต่ระดับมาถึงจุดพีคของชีวิต และพีคต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว
‘ร่างทอง’ ของเดอ บรอยน์ สามารถเสกได้ทุกอย่างในสนาม และชวนให้คิดถึงเทพนิยายของ ซีเนดีน ซีดาน ที่แบกทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2006 จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนความฝันจะพังทลายลงหลังจากที่โดน มาร์โก มาเตรัซซี กองหลังอิตาลีปั่นหัวจนตบะแตก
เราจะได้เห็นร่างทองของ KDB ไหมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ น่าติดตามมากๆ
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติเบลเยียม (Belgium national football team)
คริสเตียโน โรนัลโด (โปรตุเกส)
ถึงสภาพของ ‘CR7’ จะยับเยินแค่ไหนในเวลานี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราละสายตาไปจากสุดยอดนักเตะตลอดอย่างโรนัลโดได้เด็ดขาด
ในวัย 37 ปี สภาพร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนเทพเจ้าของเขาอาจจะดูโรยราลงไปบ้าง และฟอร์มการเล่นก็ย่ำแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่การเล่นให้ทีมชาติโปรตุเกสที่องค์ประกอบทุกอย่างถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองเขา มันแตกต่างจากการอยู่ในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาก
สิ่งเดียวที่โรนัลโดจะต้องทำเร็วที่สุดคือการเคลียร์ใจกับทีมไม่ให้เหลืออะไรติดค้างในใจกันก่อนลงสนาม ถ้าทำได้เราอาจจะได้เห็นเขาสร้างสถิติอะไรสักอย่างในฟุตบอลโลกหนนี้ก็ได้
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส (Portugal national football team)
ซนฮึงมิน (เกาหลีใต้)
นักฟุตบอลจากเอเชียคนเดียวที่ได้รับการยกย่องว่าไปถึงระดับโลกในตอนนี้ ซึ่งแม้อาตี๋ซนจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักที่บริเวณกระดูกเบ้าตาจนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ฝีมือหมอเกาหลี (เดี๊ยว!) ทำให้ไม่มีปัญหาที่จะกลับมาลงสนามได้ทันเวลา
ซนเองก็อยู่ในวัยพีคของชีวิตเช่นกันกับตัวเลข 30 ขวบ และเขาคือความหวังสูงสุดไม่ใช่เฉพาะแค่เกาหลีใต้ แต่อาจรวมถึงทั้งเอเชียที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘บูรพาไม่แพ้’ เป็นอย่างไร
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ (South Korea national football team)
เปดรี (สเปน)
ในฟุตบอลยูโร 2020 เปดรีคือความมหัศจรรย์ที่ไม่มีใครคาดคิด กองกลางเด็กน้อยวัยกระเตาะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมชาติสเปน และยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นสตาร์รุ่นใหม่ที่ชวนให้คิดถึงรุ่นพี่อย่าง ชาบี เอร์นานเดซ หรือ อันเดรส อิเนียสตา ขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
ฟุตบอลโลกครั้งนี้เปดรีในวัย 19 ปี (ย้ำ 19 ปี!) ไม่ได้เป็นแค่ความหวังของทีมชาติสเปน แต่เป็นความหวังของวงการฟุตบอลที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น หากเก่งพอก็คือเก่งพอ
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติสเปน (Spain national football team)
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (โปแลนด์)
หนึ่งในกลุ่มของนักเตะระดับ ‘ซูเปอร์แมน’ ของโลก ฟอร์มของเลวานดอฟสกีในช่วง 2 ปีมานี้อาจจะไม่พีคเหมือนช่วงก่อนหน้านี้นัก แต่ไม่ได้หมายความว่า ‘พลัง’ ของเขาจะลดลงไปแต่อย่างใด
กองหน้าตัวเป้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งเท่าที่โลกเคยมีมายังคงแข็งแกร่ง หาตำแหน่งเยี่ยม และการจบสกอร์คมกริบในระดับที่อย่าได้ปล่อยให้อยู่คนเดียวโล่งๆ ในกรอบเขตโทษทีเดียว
โป้ง หาย แน่นอน
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์ (Poland national football team)
ซาดิโอ มาเน (เซเนกัล)
ความหวังของชาวเซเนกัลและความภูมิใจของชาวแอฟริกา ซาดิโอ มาเน พาทีมชาติคว้าแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์ได้เมื่อต้นปี เอาชนะ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล (ในขณะนั้น) คว้าสิทธิ์มาแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ
ปัญหาคือมาเนเกิดบาดเจ็บที่กระดูกหน้าแข้งในช่วงก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งเดิมถูกคาดหมายว่าอาจจะกลับมาไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติเซเนกัลมาด้วย ด้วยหวังว่าอาจจะกลับมาได้สักนัด
การลงสนามของมาเนในฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล (Senegal national football team)
ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา)
The Last Dance สำหรับราชาลูกหนังโลกผู้ไม่เคยไปถึงจุดสูงสุดของโลกลูกหนังอย่างแท้จริง ในวัย 34 ปี เมสซียืนยันว่านี่คือฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา และโชคดีสำหรับพวกเราทุกคนที่ดูเหมือนเมสซีย้อนเวลากลับมาอยู่ในช่วงที่สภาพร่างกายและฟอร์มการเล่นเข้าขั้นมหัศจรรย์อีกครั้ง
แชมป์โคปาอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว และแชมป์ฟินาลิสซิมา (อเมริกาใต้ vs. ยุโรป) บ่งบอกว่าอาร์เจนตินายุคนี้มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะประสบความสำเร็จได้ ทีมชุดนี้ยังได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อส่งเมสซีให้ไปถึงความฝันให้ได้สักครั้ง
สำหรับเมสซีเองตอนนี้ทุกอย่างถูกขัดเกลามาถึงขีดสุดแล้ว เหมือนยอดยุทธ์ที่ไม่ต้องตวัดกระบี่ก็ทำให้ใบไม้ขาดได้ และเราจะได้เห็นสิ่งนี้แน่นอนในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งคนจำนวนมากอยากเห็นความฝันของเขาเป็นจริงสักครั้ง
อ่านต่อ: Team Profile: ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา (Argentina national football team)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตากระแส ฟุตบอลโลกปี 2022 จะคึกคักหรือไม่ หลังเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อยังไม่กลับมา ฝั่งสินค้าชะลอใช้งบโฆษณา
- ม.หอการค้า คาด ฟุตบอลโลก ทำเงินสะพัดกว่า 7.5 หมื่นล้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นเงินนอกระบบหรือการพนัน
- ฝืดในสนามไม่เป็นไร ตราบใดที่ฟอร์มใน Wall Street ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยังร้อนแรง!
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต